Apr 29, 20192 min read

เทคนิควางกลยุทธ์ สอบ SAT MATH ให้ได้คะแนนตามเป้า!!

ใครละไม่อยากสอบ SAT ได้คะแนนสูงๆ ทุกคนก็อยากสอบได้คะแนนสูงๆ กันทั้งนั้นแหละ แต่รู้รึเปล่า ว่าการจะได้มาซึ่งคะแนน SAT Math ที่เราตั้งเป้าเอาไว้นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง?

บางคนอยากได้ 800 เต็ม

บางคนหวังคะแนน 700

บางคนขอแค่ผ่าน!

เรียน SAT — เทคนิควางกลยุทธ์ สอบ SAT MATH ให้ได้คะแนนตามเป้า

แล้วรู้มั้ย ว่าจะได้คะแนนที่ตั้งเป้าไว้

ต้องทำให้ได้ part ละกี่ข้อ? ต้องทำถูกทุกข้อเลยมั้ย? ต้องทำข้อละกี่นาที? . . เชื่อสิ ต้องมีน้องหลายคน ที่ไม่เคยคิด วางแผน ในจุดๆนี้เลย สักแต่นั่งอ่าน สักแต่นั่งทำโจทย์ หวังแค่ว่า "ต้องตอบถูกให้ได้เยอะที่สุด" . .

แต่ถ้าเราคิดซักนิด วางกลยุทธ์ สักหน่อยคะแนน SAT MATH ที่อยากได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เท่าไหร่นะ

ก่อนจะวางแผน ต้องเข้าใจก่อน ว่า SAT MATH ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง Math มี 2 part No cal : ใช้เวลา 25 นาที 20 ข้อ ข้อละ 75 วินาที Cal : ใช้เวลา 55 นาที 38 ข้อ ข้อละ 89 วินาที . . ข้อสอบ SAT Math ประกอบไปด้วยเนื้อหาหลักๆ 3 ส่วนด้วยกัน Algebra 60% คิดเป็น 33 ข้อ Data Analysis 30% คิดเป็น 17 ข้อ Geometry + others 10% คิดเป็น 6-8 ข้อ

สมมติน้อง A อยากได้คะแนน SAT 600 คะแนน

ไม่หวังเยอะเท่าไหร่ ขอแค่มีคะแนน MATH ผ่านก็พอ

น้อง A อ่าน Algebra ก่อนเลย เพราะ ออกสอบถึง 60% ของข้อสอบทั้งหมด

ถ้าน้อง A เก็บ 33 ข้อนี้ได้ เทียบคะแนนจะอยู่ที่ 600 พอดี!

*** คะแนนที่ใช้ เป็นเพียง การคาดการณ์

คะแนนจริงของการสอบแต่ละรอบ ขึ้นอยู่กับ curve ในรอบนั้น*** . .

ซึ่งนั่นหมายความว่า

น้อง A สามารถ focus ที่เนื้อหาเพียงเรื่องเดียว เก็บเฉพาะเรื่องใหญที่สุด ทำให้คล่องแค่เรื่องเดียวพอ

น้อง A ทำผิดได้ไม่เกิน 25 ข้อ

น้อง A เลยลองวางแผนว่า น้อง A จะทำ part no cal ผิดไม่เกิน 5 ข้อ และ Part Cal อีกไม่เกิน 20 ข้อ

นั่นแปลว่า น้อง A มีเวลา เพิ่มเป็น

part no cal : 100 วินาที ต่อ หนึ่งข้อ!

part cal : 183.33 วินาที ต่อ หนึ่งข้อ

มีเวลาเพิ่มขึ้น ต่อหนึ่งข้อขึ้นมาเยอะมากกกก

แถมมม! ถ้า 25 ข้อที่เหลือนี้

น้อง A บังเอิญเดาถูก เพิ่มขึ้นมา 5 ข้อ

น้อง A ตอบถูก เพิ่มขึ้นมาเป็น 38 ข้อ

น้อง A จะได้คะแนน SAT อยู่ที่ 650 ทันที!

สมมติ น้อง B ตั้งเป้า อยากได้ SAT math 750 น้อง B จะทำอย่างไรดี? .

น้อง B ต้องทำถูกทั้งหมด 50 ข้อ น้อง B สามารถ ทำเฉพาะเรื่อง Algebra (33 ข้อ) +Data Analysis (17 ข้อ) เพียง 2 หัวข้อ เท่านั้น ตัด Geometry ไปเลย น้อง B ทำผิดได้ทั้งหมด 8 ข้อ ( Cal 4 ข้อ และ No Cal 4 ข้อ)

. นั่นแปลว่าน้อง B มีเวลาเพิ่มขึ้น Part No cal เป็นข้อละ 93.75 วินาที Part Cal เป็นข้อละ 97.05 วินาที น้อง B มีเวลาเพิ่มขึ้น และยังได้คะแนนตามเป้าที่วางไว้! น้อง B เดา 8 ข้อที่เหลือ หากเดาถูก ได้คะแนนเกินที่ตั้งเป้าไว้อีก!

น้อง C ตั้งเป้าไวที่ 800 เต็ม!!

น้อง C ต้องแม่นเนื้อหา ทุกเรื่อง ทำโจทย์ทุกสไตล์ได้ ไม่ใช่ต้องเก็บเรื่องใหญ่ แต่ต้องเข้าใจเรื่องเล็กๆ . . น้อง มีเวลาทำข้อสอบเพียงข้อละ 75/89 วินาทีเท่านั้น (No Cal/Cal) และต้องไม่มีข้อผิดพลาดเลยซักข้อเดียว

เห็นมั้ย!

ถ้าเรามีเป้าหมาย คะแนนที่ชัดเจน

มีวิธีการ กลยุทธ์ที่ถูกต้อง คะแนน SAT MATH ที่เราตั้งเป้าเอาไว้ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด