3 วิธี ฝึกทำโจทย์ SAT READING ได้ดีที่สุด
พูดถึง SAT พาร์ท Reading ไม่มีใครบอกว่าไม่ยาก! สำหรับเด็กไทยแล้ว เรียกว่า มหาโหดเลยด้วยซ้ำ คะแนนสอบเข้าของแต่ละคณะก็สูงขึ้นทุกปี และปฏิเสธไม่ได้ว่า คะแนน SAT READING นี่แหละ ที่จะเป็นตัวกำหนด ว่าเราจะได้เข้าคณะ/มหาวิทยาลัย ที่ใฝ่ฝันหรือไม่
แต่รู้ๆกันอยู่ จะอ่าน reading ซักเรื่องให้เข้าใจ มันไม่ง่าย ต้องวิเคราะห์ให้ออก ตอบคำถามให้ถูก เวลาก็จำกัด จุดที่ทำให้นักเรียนท้อแท้ที่สุดคือ ไม่ว่าจะฝึกอ่าน READING ไปมากเท่าไหร่ สุดท้ายแล้ว พอเข้าไปในห้องสอบ ก็เจอเนื้อเรื่อง ที่ไม่เคยอ่านมาอยู่ดี!
เพราะฉะะนั้น ถ้าน้องๆ ฝึกทำเองที่บ้าน แบบไม่มีทิศทาง มีหวังหลงทางแน่นอน แต่วันนี้ KRUPIMHOUSE จะมาบอก 3 วิธี ที่จะทำให้ การเตรียมตัวสอบ SAT READING ง่ายขึ้น
SAT READING ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
SAT ประกอบไปด้วย part reading เพียง 1 part เท่านั้น
ใช้เวลาทั้งหมด 65 นาที
ประกอบไปด้วย 4 passages และ 1 paired passage
จำนวน 52 ข้อ
ข้อละ 1 นาที 15 วินาที
อื้อหืออ! เห็นเวลาแล้วปวดใจ จะรีบกันไปถึงไหน รู้ว่ายากขนาดนี้แล้ว มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเตรียมตัวสอบ SAT ได้ง่ายขึ้น
1. Use official SAT Test:
เมื่อคิดจะเริ่มฝึก practice test ขอให้นึกถึง Collegeboard ก่อนเลย เพราะเนื่องจาก Collegeboard เป็นผู้คิดข้อสอบ SAT ขึ้นมาทั้งหมด การทำโจทย์ practice test ของ Collegebaord เสร็จทำให้เราสามารถเดาระดับความยากของข้อสอบจริงๆ ได้
แน่นอน จะอ่าน Reading ทั้งทีต้องไม่ลืมที่จะจดศัพท์ เพิ่มเติม แยกออกเป็นหมดหมู่ด้วยตัวของเราเองด้วย! เพราะโอกาสที่ศัพท์เหล่านั้นจะกลับมาในวันสอบจริง จัดว่าสูงมาก! จดออกมาแล้วต้องจำ และใช้ให้เป็น!
2. ทำข้อสอบ ใช้สถานการณ์จริง!
หลายคนคงเคยทำ sim test กันมาหลายที่แล้ว แต่เชื่อสิ! ทำ sim test เองอยู่ที่บ้าน ก็ได้ผลเหมือนกัน ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา เนื่องจากเวลาสอบนั้น part reading คือ part แรกของข้อสอบทั้งหมด การฝึกทำข้อสอบภายใต้สถานการณ์จริง จะช่วยให้เรารู้ว่า จะต้องใช้ energy ไปเท่าไหร่กับ part แรก และยังสามารถทำ part อื่นต่อได้แบบ ไม่หมดแรง ไม่มึนไปซะก่อน
3. ทบทวนข้อผิดพลาด!
สิ่งที่นักเรียนส่วนใหญ่ พลาดที่สุด คือการไม่พยายามทำความเข้าใจ กับข้อผิดพลาดของตัวเอง บอกได้เลยว่า ทำโจทย์ไปเยอะแค่ไหน ก็สอบไม่ผ่าน! น้องๆ ต้องเริ่มจากการ หาข้อผิดพลาดของตัวเองให้ได้ เพราะตัวน้องเองจะรู้ดีที่สุด และต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด แค่นั้นเอง! เช่น ผิดโจทย์ประเภทคำศัพท์? หา Main Idea ไม่เป็น? etc.
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากแต่ละคน มีพื้นฐานมาไม่เท่ากัน มีสไตล์การทำโจทย์คนละสไตล์ หน้าที่ของน้องๆ คือ การหาจุดที่พอดี ให้กับตัวเอง จุดที่คิดว่า วิธีนี้แหละ คะแนนฉันจะเยอะสุด!! ลองทำโจทย์ใช้วิธีการหลายๆ แบบ ถ้าแบบไหนไม่เวิค เปลี่ยนวิธีทันที อย่าทู่ซี้ ทำมันอยู่นั่นแหละ คะแนนจะไม่อัพเอา!
อย่างเช่น ลองทำ Practice test พาร์ท reading ชุดแรก อ่าน passage ทั้งหมดก่อน แล้วค่อยทำโจทย์ทีเดียวรวด แต่คะแนนออกมาไม่ดีเท่าไหร่ เอาใหม่ ชุดสองลองวิธีใหม่บ้าง อ่านโจทย์ก่อน แล้วค่อยกลับไป skim passage เอาทีหลัง สรุปวิธีนี้เวิคกว่า ประหยัดเวลากว่า! เอ้อ! ทำวิธีนี้แหละ! เห็นภาพใช่มั้ย?
เชื่อว่าถ้าทำตามนี้ น้องๆ ต้องคุ้นเคยกับข้อสอบมากขึ้นไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าหากอยากได้ตัวช่วย KRUPIMHOUSE ก็พร้อมช่วยน้องๆเสมอ
โทร 02-587-8095
LINE ID: @KRUPIMHOUSE
WWW.KRUPIMHOUSE.COM
Facebook : NEW SAT Krupimhouse